วิธีที่เราจะลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน เห็นทีจะมีแค่วิธีเดียวคือการ"ออกกำลังกาย"เท่านั้น แต่จะออกกำลังกายอย่างไรให้ลดน้ำหนักได้ดีที่สุดล่ะ? 
น้ำหนักและความอ้วนมาจากหลายๆปัจจัยในร่างกายเรา บทความนี้จะกล่าวถึงน้ำหนักของ"ไขมัน"ในตัวเราเท่านั้น เพราะการลดไขมัน เท่ากับการทำให้ร่างกายเราเฟิร์มขึ้น ดูดีและทำให้มีสุขภาพดี

ใครหลายๆคนอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าการเผาผลาญไขมันนั้น ต้องควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นต่ำ-ปานกลาง หรือระดับชีพจรควรอยู่ระหว่าง 60-70% เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่หลากหลายสำนักพิสูจน์กันมาแล้วครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง (high intensity) จะไม่ช่วยให้เราเผาผลาญไขมันนะครับ ความจริงคือยังเผาผลาญไขมันได้ครับ เมื่อเปรียบเทียบกับแบบความเข้มข้นต่ำ ไขมันที่ถูกเผาผลาญยังได้เยอะกว่าด้วยซ้ำ พูดๆไป อาจจะยังไม่เห็นภาพ ลองมาดูกราฟนี้ให้ชัดเจนกันดีกว่า 

กราฟแสดงการเผาผลาญแคลอรี่ของผู้หญิงน้ำหนัก 60 กิโลกรัม

เห็นได้ชัดว่าการออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นต่ำ-ปานกลาง เผาผลาญไขมันได้ถึง 50% ในขณะที่การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูงเผาผลาญไขมันได้เพียง 39.85% แต่เมื่อดูถึงปริมาณการเบิร์นไขมันในครึ่งชั่วโมงแล้ว กลับกลายเป็นว่าการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูงเบิร์นไขมันได้ดีกว่าถึง 82 แคลอรี่ เรื่องนี้เกิดขึ้นด้วยหลักการง่ายๆคือ หัวใจหรือระดับชีพจรเราเต้นเร็ว ร่างกายเราจึงต้องการใช้พลังงานมาก และเมื่อคำนวนออกมาเป็นเปอร์เซ็นแล้ว ผลลัพธ์การเบิร์นไขมันจึงออกมามากกว่านั่นเอง

แล้วอย่างนี้ควรออกกำลังกายแบบไหนดีให้มีประสิทธิภาพที่สุด?

เรื่องนี้คงสรุปหรือฟันธงไม่ได้ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนมากกว่า บางคนอยากออกกำลังกายแบบเห็นผลเร็วๆ ก็ควรเลือกความเข้มข้นสูง ในขณะที่บางคนต้องการรักษาน้ำหนักให้คงที่ หรือมีกิจกรรมต้องทำระหว่างออกกำลังกาย เช่น ทำงาน อ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์ ก็สามารถออกกำลังกายแบบช้าๆ-ปานกลาง ได้เช่นกัน ข้อควรระวังคือ ต้องไม่ช้าเกินไปหรือระดับชีพจรต่ำกว่า 60% ล่ะครับ

บทความโดย ทีเอสเอ็มกรุ๊ป