Pebble ได้เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดคือ Pebble Time โดยแตกออกเป็นสามรุ่นย่อยได้แก่ Pebble Time, Pebble Time Steel และ Pebble Time Round ใช้งบลงทุนไปมากกว่า 20 ล้าน US ดอลลาห์ หรือราวๆ 720 ล้านบาท 

ทั้งสามรุ่นใช้กับ Pebble Time App โดยเฉพาะ แยกออกจาก Pebble รุ่นแรก ซึ่งแน่นอนว่าซอร์ฟแวร์และโปรแกรมของทั้งสามรุ่นนั้นเหมือนกันทุกประการ ความแตกต่างจะอยู่ที่รูปร่างและการออกแบบ รวมถึงวัสดุที่ใช้เป็นหลัก เพื่อให้เพื่อนๆได้ไอเดีย เราจะมาจำแนกความแตกต่างออกเป็นทีละส่วน

เรื่องของการออกแบบ

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดสุดคือรูปร่างดีไซน์ Pebble Time Round มีความบางสูงที่สุด ตัวเรือนบางเพียงแค่ 7.5 มิล ขณะที่ความบางของ Pebble Time อยู่ที่ 9.5 มิล และ Pebble Time Steel ความบางอยู่ที่ 10.5 มิล

ทั้งสามรุ่นใช้กรอบครอบหน้าจอ (bezel) ที่ทำจากสแตนเลส แต่ Pebble Time ใช้สแตนเลสเพียงแค่ผิวด้านหน้า ส่วนด้านในเป็นพลาสติก สำหรับ Pebble Time มีกรอบครอบหน้าจอเฉพาะสีดำเท่านั้น ส่วน Pebble Time Round และ Pebble Time Steel มีทั้งสีดำ สีเงิน และสีทอง

ทั้งสามรุ่นสามารถเปลี่ยนสายนาฬิกาได้ เฉพาะรุ่น Pebble Time Round สามารถเลือกความกว้างของสายได้ 2 ขนาด ได้แก่ 14 มิล และ 20 มิล ส่วน Pebble Time และ Time Steel ใช้สายกว้าง 22 มิล เท่านั้น

หน้าจอ

หน้าจอทั้งสามแบบใช้เทคโนโลยี e-paper พร้อมด้วยใช้ไฟ LED Backlighting เหมือนกันทุกประการ

แบตเตอรี่

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของทั้งสามรุ่นค่อนข้างแตกต่างกันเลยทีเดียว ซึ่งแปรผันตามความบางของนาฬิกานั่นเอง รุ่นที่มีความอึดของแบตสูงสุดคือ Pebble Time Steel ใช้ได้นานสูงสุดถึง 10 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ซึ่งความเป็นจริงอยู่ที่ 7 วัน ถ้าใช้งานปกติ ซึ่งถือว่าอึดมากๆแล้ว) สำหรับ Pebble Time เคลมว่าใช้ได้นานถึง 7 วัน (ทดสอบใช้งานปกติอยู่ที่ 5 วัน) สุดท้ายคือ Pebble Time Round นาฬิกาอัจฉริยะที่มีความบางที่สุดในโลก แต่ก็ต้องยอมรับเรื่องของแบตเตอรี่ที่อยู่ได้แค่ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อายุการใช้งานแบตเตอรี่จะสั้นที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับสามรุ่น แต่ระยะเวลาการชาร์จให้เต็มเพียงแค่ 15 นาที เท่านั้น!

ทั้งสามรุ่นชาร์จผ่านระบบแม่เหล็กด้านหลังนาฬิกา ผ่านสาย USB

ความสามารถและการใช้งาน

พูดถึงเรื่องการใช้งานของนาฬิกาทั้งสามรุ่นล้วนไม่มีความแตกต่าง โดยใช้ฟีเจอร์ Timeline ให้ผู้ใช้เลื่อนจากอดีต ปัจจุบัน และ การแจ้งเตือนอนาคต (Future Notifications) ข้อความ อีเมล์ ปฏิทิน ทั้งสามรุ่นใช้ปุ่มนาฬิกาเป็นการควบคุม ไม่ใช้ระบบสัมผัสหรือทัชสกรีน

ทั้งสามรุ่นใช้มอเตอร์สั่นเพื่อแจ้งเตือนแบบเงียบ และ ไมโครโฟนซึ่งให้ผู้ใช้สามารถตอบกลับด้วยเสียงได้

สำหรับ Pebble Time และ Pebble Time Steel กันน้ำได้ถึง 30M สามารถใช้อาบน้ำ ว่ายน้ำได้ ขณะที่ Pebble Time Round กันน้ำได้ IPX7 สามารถป้องกันน้ำขณะล้างมือ ฝนตก ไม่สามารถใช้ว่ายน้ำหรืออาบน้ำได้ 

ทุกรุ่นใช้ได้กัน iPhone และ Android

ราคา 

เช็คราคาล่าสุดได้ที่นี่

Pebble Time คลิกที่นี่

Pebble Time Steel คลิกที่นี่

Pebble Time Round คลิกที่นี่

สรุป

การตัดสินใจเลือกซื้อนาฬิกา Pebble ทั้ง 3 รุ่นนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน ถ้าต้องการเน้นเรื่องแบตเตอรี่อึดๆ ให้ลองดู Pebble Time และ Pebble Time Steel แต่ถ้ากำลังมองหานาฬิกาอัจฉริยะที่ไม่ใหญ่เหมือนนาฬิกาอัจฉริยะทั่วไปและมีความบางที่สุดในโลก โดยที่แบตอยู่ได้นาน 2 วัน ให้ลองดู Pebble Time Round